“อ่านหนังสือ” ใครหลายคนได้ยินคำนี้ ถึงกับส่ายหัว
เพราะการอ่านหนังสือเป็นของไม่ถูกโรคกัน
บางคนถึงขั้นคิดว่า จะอ่านหนังสือ ก็เครียดแล้ว
อีกบางคน แค่เริ่มอ่าน อาการง่วงหงาวหาวนอน
ก็จะรีบมาเยือนเราในทันที ยิ่งเป็นตำรับตำรา
เป็นหนังสือเรียน หนังสือวิชาการ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
แต่หากเป็นนิยายหรือการ์ตูนแล้วล่ะก้อ
อ่านหลายชั่วโมง หรือ อ่านทั้งวันก็ไม่หลับ จริงไหมครับ
.....
...
อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่กำลังศึกษาเล่าเรียนอยู่
ไม่ว่าจะเป็นระดับมัธยม ปริญญาตรี โทหรือเอก
และไม่ว่า จะเป็นคณะหรือสาขาวิชาใดก็ตาม
โดยเฉพาะหากเป็นคณะที่ต้องอ่านหนังสือมากๆ
เช่น คณะนิติศาสตร์ หรือ คณะศึกษาศาสตร์
การอ่านหนังสือถือเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลย
.......
คำถามก็คือ ต้องอ่านหนังสืออย่างไร
.
อ่านกี่รอบล่ะ ถึงจะเข้าใจหรือจำได้
จะว่าไป เรื่องนี้ก็ขึ้นอยู่กับเทคนิควิธีของแต่ละคนครับ
ไม่มีมาตรฐานว่า ต้องอ่านสองหรือรอบสามรอบ
บางคนอ่านรอบเดียวเข้าใจเลยก็มีให้เห็นอยู่มาก
แต่บางคนต่อให้อ่านหลายรอบก็ยังไม่เข้า(หัว) สักที
......
โดยหลักมาตรฐานของคนปกติทั่วไปที่เรียนดีแล้ว
เขาจะอ่านหนังสือควรอ่านประมาณสามรอบครับ
(โปรดใช้วิจารณญาณในมาตรฐานที่บอกนี้
เพราะขึ้นอยู่กับเทคนิคและสไตล์ของแต่ละคน)
.
อ่านรอบแรก ไม่ต้องจดจำ ไม่ต้องขีดเส้นใต้
หรือ เน้นข้อความใดๆทั้งสิ้น แค่อ่านผ่านๆให้พอเข้าใจ
รอบสอง จะเน้นข้อความหรือขีดเส้นใต้ในหัวข้อสำคัญ
ส่วนรอบสาม แม้จะต้องอ่านอย่างละเอียดและเข้าใจ
แต่เนื่องจากผ่านตามาพอสมควรแล้ว
จะทำให้การอ่านในรอบนี้ชัดเจนแจ่มเเจ้งและเข้าใจ
และควรสกัดหัวข้อหรือหลักเพื่อเตรียมสอบด้วยครับ
หลายคนทำแบบนี้แล้วได้ผลดีเลิศทีเดียวเชียวครับ
ก็อย่างว่า พูดน่ะง่าย แต่สำหรับบางคนนั้นไม่ง่ายเลย
โดยเฉพาะคนที่ทำงานไปเรียนไป จะทำอย่างไร
ลำพังหาเวลาอ่านรอบเดียว ก็แสนจะยากเย็นอยู่แล้ว
แต่สำหรับคนที่เป็นหนอนหนังสือ คนที่รักการอ่าน
และฝึกฝนการอ่านอยู่อย่างสม่ำเสมอ ก็ไม่ยากนัก
เทคนิคง่ายๆ ก็คือ ต้องฝึกอ่านให้เร็วขึ้นครับ
หลายคนอ่านช้า เพราะอ่านไปคิด(มาก)ไป
หรือไล่สายตาอ่านจากซ้ายไปขวา วนไปวนมา
...
วิธีอ่านให้รวดเร็วก็คือ ให้ฝึกอ่านโดยวางสายตา
ไปที่กลางประโยคหรือบรรทัดที่เราจะอ่าน
คือ อ่านในภาพรวมของประโยคหรือบรรทัดนั้นๆ
และหากเราอ่านได้วิธีนี้ได้สักพัก เราจะชินกับการอ่านเร็ว
และจับใจความหรือจับเป็นเด็นในประโยคนั้นได้เอง
ว่ากันว่า มีบางคนฝึกฝนจนเป็นนักอ่านขั้นเทพ
คืออ่านได้เร็วมาก เพราะเขาไม่ได้วางสายตาทีละบรรทัด
เขาวางสายตาไปที่กลางเนื้อเรื่องและจับประเด็นได้อย่างเข้าใจ
แต่จะทำได้ก็ต้องมีการฝึกฝนและมีสมาธิอย่างมาก
.....
นี่แหละครับ เทคนิควิธีการอ่านให้รวดเร็วขึ้น
ก็ลองนำไปปรับใช้กับวิธีการอ่านของแต่ละคนกันนะครับ
วันพุธเอง แม้จะนับว่าเป็นคนชอบอ่านหนังสือ
เข้าขั้น หนอนหนังสือ ตัวหนึ่ง (เอ๊ย คนหนึ่ง)
และถือว่าเป็นคนอ่านหนังสือเร็วใช้ได้คนหนึ่ง
แต่เหนือฟ้าก็ยังมีฟ้า มีอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญแนะนำมา
รวมถึงอ่านตำราเกี่ยวกับการฝึกฝนการอ่านให้เร็วขึ้น
ซึ่งก็ยังมีอีกหลายเทคนิควิธี ที่นำไปปรับใช้ได้เหมือนกัน
ก็อย่างว่าล่ะครับ ยุคนี้เป็นยุคแห่งความเร็ว
แม้ว่า บางเรื่อง ความเร็วก็เป็นผลเสียได้เช่นกัน
เพราะทำให้เราขาดความละเอียด ขาดความรอบคอบ
แต่ในหลายเรื่อง ความเร็วก็ทำให้เราได้เปรียบอยู่ไม่น้อย
ก็ขอให้ทุกท่าน มีความสุขกับการอ่านหนังสือ
ได้ประโยชน์กันถ้วนหน้าจากการเรียนรู้กันทุกคน….นะครับ
cre http://www.oknation.net/blog/kritwat/2012/07/05/entry-1
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น