น้องๆหลายคนที่ขึ้นชั้น ม.6 อาจจะคิดว่าเพิ่งเปิดเทอมยังชิวๆได้อีกนาน กว่าจะ Admissions ต้อง เมษายน 56 นู่แต่ความจริงแล้ว คุณแทบไม่มีเวลาเหลือให้เล่นแล้ว
กรกฎาคม
สอบ วิชาเฉพาะ ของจุฬาฯ
รับสมัครสอบ GAT-PAT 1/2556
สิงหาคม
สอบตรง แพทย์ มข
รับสมัคร แพทย์ กสพท
กันยายน
สอบตรง มศว
ตุลาคม
สอบ GAT-PAT
สอบตรง กสพท วิชาเฉพาะ
สอบตรง เภสัช ศิลปากร รอบที่ 1
พฤศจิกายน
สอบตรง มหิดล
สอบตรง ธรรมศาสตร์
สอบตรง พระจอมเกล้าธนบุรี
สอบตรง ลาดกระบัง หลายคณะ เช่น วิศวะ สถาปัตย์
สอบตรง มอ หลายคณะ
สอบตรง ขอนแก่น
ธันวาคม
สอบตรง เชียงใหม่
รับสมัครสอบ GAT-PAT 2/2556
มกราคม
สอบ 7 วิชาสามัญ
กุมภาพันธ์
สอบ O-NET
มีนาคม
สอบ GAT-PAT 2/2556
เมษายน
รับสมัครแอดมิชชั่น 2554
สอบ เภสัช ศิลปากร บูรพา รอบ 2
พฤษภาคม
ประกาศผลแอดมิชชั่น
รับตรงรอบหลังแอดมิชชั่น บางคณะ บางมหาวิทยาลัย
สำหรับ เกษตรศาสตร์ แต่ละหลายคณะก็สอบเข้านะครับ เช่น ประมง สถาปัตย์ เกษตร วิทยาศาสตร์ วิศวะยื่นคะแนน gat-pat ครับผม
สรุป เดือน
สิงหาคม-กันยายน จะเป็นเดือนแห่งการสมัคร ช่วงนี้ควรจะเข้าเว็บไซต์เพื่อเชคข่าวทุกวัน
ตุลาคม-พฤศจิกายน จะเป็นเดือนแห่งการสอบข้อเขียน
สนามสอบใหญ่ครั้งแรกของน้อง ๆ จะเป็น สอบตรง มศว เพราะที่นี่รับสมัครนักเรียนจากทั่วประเทศ ปีก่อนมีผู้สมัครมากถึง 85,169 ราย ค่าสมัครก็ประมาณ 42,584,500 บาท !! ( สาเหตุที่นี้รับสมัครเร็ว ไม่ใช่เพราะเงินหมด อย่างที่น้องๆแซวกัน แต่น่าจะมาจากถ้าทราบตัวเลขผู้สมัครก่อน จะได้มีเวลาจัดเตรียมสถานที่สอบ มีความพร้อม เพราะปีก่อนเปลี่ยนสนามสอบกันกะทันหัน เด็กไม่เข้าตามข่าวก็แย่เลย )
มศว สอบเดือน กันยายน 2555 นั่นหมายความว่าเราเหลือเวลา อีกแค่ 4 เดือนเท่านั้น รอหลังจากนั้นก็พบกับเทศกาลสอบครั้งใหญ่ คือ gat-pat และหลังจากนั้น สอบตรง จะตามมาเรื่อย ๆ ไม่หยุด บอกได้เลยว่ามันสาหัสมาก
แนะนำวิธีเตรียมตัว
1 ต้องถามตัวเองให้ชัดๆ เลยว่าอยากเรียนอะไรกันแน่ คณะอะไร เพราะถ้าเรามีจุดหมายแล้วจะทำให้การวางแผนในการอ่านหนังสือง่ายขึ้นเยอะ
2 รู้เป้าหมาย รู้ว่าต้องสอบ อะไร !! เช่น
อยากเรียนแพทย์ ทันตแพทย์ : ต้องสอบ 7 วิชาสามัญ วิชาเฉพาะแพทย์ O-NET PAT2 GAT
อยากเรียนวิศวะ : สอบ PAT1 PAT2 PAT3 ONET
( ยื่นคะแนนรับตรงใช้ PAT1 แต่ถ้า Admissions จะใช้ PAT2 สรุป คนเรียนวิศวะสอบเยอะสุด เหนื่อยสุด )อยากเรียนวิทยศาสตร์ : สอบ PAT1 PAT2 PAT3 GATอยากเรียนมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ : สอบ GAT PAT1 PAT7
แนะนำน้องให้โหลด ระเบียบการ Admissions 55 จะมีวิชาที่เราต้องใช้ downloadเอกสารทั้งหมด ปลเกณฑ์ Admission 56 ดูจากใต้บทความ
3 แนะนำให้สอบ GAT-PAT ทุกรอบ เพราะความยากง่ายอาจจะไม่เท่ากัน ถ้าอ่านหนังสือไม่ทัน ก็ให้เน้นวิชาที่ใช้สัดส่วนเยอะเช่น จะเข้าเภสัช ใช้ PAT2 40 ก็เน้น pat2 ไปก่อนเลย
4 สอบตรงส่วนใหญ่ข้อสอบจะเป็นเนื้อหาม 4-5 นะครับ ม.6 ก็มีออกบ้างแต่ไม่เยอะ ยังไงก็เน้นไปที่ 4-5 เป็นหลักครับ
5 ติดตามข่าวสารอยู่เสมอ จากเว็บไซต์การศึกษาทุกเว็บไซต์ และเว็บไซต์มหาวิทยาลัยที่เราอยากเข้าครับ
6 ถ้าใครไม่เดือนร้อนเรื่องเงินทองก็แนะนำให้สอบตรงหลายๆสนาม เพราะจะทำให้เราเคยชินกับการสอบที่กดดันมากครับ และจะทำให้เราตื่นตัวอยู่เสมอ
7 อย่าคิดว่าตัวเองเก่งแล้วประมาท ครับอยากบอกได้เลยว่าเสือซุ่มมีเยอะ ในห้องดูเหมือนไม่เรียนกัน แต่พอถึงบ้านบางคนอ่านหนังสือทั้งคืน
9 เทคนิคการอ่านหนังสือของแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกันบางคนชอบอ่านตอนดึก บางคนชอบอ่านที่เงียบๆ บางคนสอบอ่านกับเพื่อน ก็ทดลองและปรับประยุกต์เทคนิคเป็นของตัวเองเลยจ้า ลองเข้าไปอ่านบทความได้ที่ http://unigang.com/Category/24 10 บางครั้งปัญหาชีวิต เรื่องเรียนที่ว่าหนักแล้ว แต่ก็จะมีเรื่องอื่นที่อาจจะหนักกว่าด้วยเช่น ครอบครัว เพื่อน และ ความรัก แต่ก็อยากบอกเลยว่าทุกคนก็มีปัญหากันทุกคนมากบ้างน้อยมาก ใครเจอปัญหาเยอะก็คิดซะว่า พระเจ้าส่งบททดสอบมาให้เรา เพื่อนให้เราผ่านไปให้ได้ เราจะเก่งและแข็งแกร่งขึ้นเอง
11 ถ้ายังไม่รุ้ว่าตัวเองจะสอบอะไร แต่ต้องอ่านหนังสือเพื่อสอบเข้า ผมก็แนะนำ ภาษาอังกฤษ รองลงมาก็ คณิตศาสตร์
12 ลองหาข้อมูลรับตรงปีก่อนได้จาก http://unigang.com/Search ให้พิมพ์ชื่อคำว่า รับตรง คณะ สถาบัน ระบุปี 55 เช่น รับตรง เภสัช ศิลปากร 13 ถ้ามีที่ไหนเปิดค่าย ก็แนะนำให้เข้านะครับ เพราะจะได้คุยกับพี่ ๆ เราจะได้เข้าใจในตัวคณะและสาขามากขึ้น ถ้าไม่ชอบจะได้เปลี่ยนทัน
14 การสอบไม่ได้วัดกันที่ความฉลาด ไหวพริบอย่างเดียว แต่ยังวัดกันที่ มานะ ความอึด อดทน กำลังใจ เพราะเราทุกคนต้องสู้กับการสอบหลายครั้งอาจจะมีทั้้งผิดหวังและสมหวัง แต่ถ้าใครเกิดผิดหวังและเกิดหมดกำลังใจไป อาจจะทำให้เราผิดหวังไปตลอดกาล แต่เราสอบไม่ติดแล้วไม่ท้อกับมาอ่านหนังสือต่อ ความหวังว่าย่อมมีวันเป็นจริงแน่นอน อันนี้ขอแนะนำให้อ่าน
ซิ่ว4ปีเพื่อคณะในฝัน ถ้าเราตั้งใจไม่มีคำว่าเป็นไปไม่ได้ :) 15 ถ้าผู้ปกครองหรือครูเข้ามาอ่าน อยากบอกว่า น้องๆต้องการกำลังใจจากพวกคุณ !!
ทปอ ประกาศปรับน้ำหนัก Admissions 2556
ทุกกลุ่มสาระ ยังคง GPAX 20% และ O-NET 30%
กลุ่มที่ 1 วิทยาศาสตร์สุขภาพ ที่ปรับ คือ
สัตวแพทยศาสตร์ สหเวชศาสตร์ สาธารณสุขศาสตร์ เทคนิคการแพทย์ วิทยาศาสตร์การกีฬา GAT 20% PAT2 30%
เภสัชศาสตร์ ,GAT 10% และPAT2 40%
ทันตแพทย์/ พยาบาลเหมือนเดิม คือ GAT 30% PAT2 20%
สรุป ที่เปลี่ยนไปมีเพียง เภสัชศาสตร์ จาก GAT 20% PAT2 30% เป็น GAT10% PAT2 40%
กลุ่มที่ 2 วิทยาศาสตร์กายภาพและชีวภาพ ปรับสาขา วิทยาศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติ GAT 10% ,PAT1 10% และPAT2 30%
สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ GAT 10% ,PAT1 20% และ PAT2 20%
สรุป ที่เปลี่ยนไปมีเพียง สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ จาก GAT 10% ,PAT1 10% และPAT2 30% เป็น GAT 10% ,PAT1 20% และ PAT2 20%
กลุ่มที่ 3 วิศวกรรมศาสตร์ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ใช้ GAT 15%, PAT2 15% , PAT 3 20%
ปล. สำหรับผมกลุ่มนี้ก็น่าปรับน้ำหนักนะครับ
กลุ่มที่ 4 สถาปัตยกรรมศาสตร์ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ใช้ GAT 10% PAT4 40%
กลุ่มที่ 5 เกษตรศาสตร์ ปรับสาขา เกษตรศาสตร์ อุตสาหกรรมการเกษตร วนศาสตร์ เทคโนโลยีการเกษตร GAT 10% และPAT1 10% และPAT2 30%
สรุป มีการปรับน้ำหนักจาก GAT 20% PAT1 10% PAT2 20% น่าจะทำให้คะแนนแอดปีนี้ ลดลงจ้า
กลุ่มที่ 6 พาณิชย์ศาสตร์และการบัญชี เศรษฐศาสตร์ การท่องเทียว ไม่มีการปรับน้ำหนัก
- พาณิชย์ศาสตร์และการบัญชี บริหารธุรกิจ เศรษฐศาสตร์ GAT 30% PAT1 20%
- ท่องเทียว รูปแบบ 1 GAT 50 %
- ท่องเทียว รูปแบบ 2 GAT 40% PAT7 10%
กลุ่มที่ 7 ครุศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ พลศึกษา สุขภาพ รูปแบบที่ 1 GPAX 20%, O-NET 30% ,GAT 20% และPAT5 30%
รูปแบบที่ 2 GPAX 20% , O-NET 30% ,GAT 10% และPAT5 20% และต้องเลือกสอบ PAT 1/2/3/4/6/7 วิชาใดก็ได้ 1 วิชา 20%
สรุป กลุ่มนี้ถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากจากปีก่อน ใช้ GAT20% PAT5 30% ทุกคณะเลยครับ
โดยเฉพาะให้มีการเลือกสอบ PAT วิชาใดก็ได้ แบบนี้จะวัดเด็กได้ตรงความต้องการของสาขาหรอ >.<
กลุ่มที่ 8 ศิลปกรรมศาสตร์ ปรับ สาขา วิจิตรศิลป์ ศิลปะประยุกต์ ดุริยางศิลป์ นาฎศิลป์ ศิลปะการออกแบบพัสตราภรณ์ และศิลปะการออกแบบหัตถอุตสาหกรรม GPAX 20% , O-NET 30%, GAT 10% และเลือกสอบPAT4 หรือ 6 เพียง 1 วิชา 40%
สรุป ปีก่อนใช้ได้แค่ PAT6 เท่านั้นนะครับ แต่ปี 56 นี้ใช้ PAT4 ได้ด้วย หุหุ
กลุ่มที่ 9 มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขา นิเทศศาสตร์ วารสารศาสตร์ อักษรศาสตร์ ศิลปะศาสตร์ มนุษยศาสตร์ รัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ สังคมวิทยา สังคมสงเคราะห์ศาสตร์
ปรับพื้นฐานวิทยาศาสตร์ GAT 30% และPAT1 20%
พื้นฐานศิลปศาสตร์ รูปแบบที่ 1 ไม่มีการปรับเปลี่ยน ( ใช้ GAT 50% )
พื้นฐานศิลปศาสตร์รูปแบบที่ 2 GAT 30% และPAT7 20%
สรุป อันนี้ถือว่าเป็นการกระทบต่อเด็กสายศิลป์ อย่างมากนะครับ เพราะเมื่อก่อนใช้ GAT 40% PAT1 10% แต่ปรับเป็น GAT 30% PAT1 20% การปรัแบบนี้ทำให้เด็กสายศิลป์ เสียเปรียบสายวิทย์เต็ม ๆ ขอให้น้องสายศิลป์ เตรียมฟิต คณิตศาสตร์ให้ดี !!!!